กองปราบปรามระดมกำลังล่าตัวแม่ว่าที่เจ้าบ่าว จ้างมือปืน “เด็ดหัว” เภสัชกร โรงพยาบาลสาวที่กำลังจะเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ตายสยองเมื่อ 8 ปีก่อน ตำรวจตามจับกุมสู่ขั้นตอนศาลฎีกา หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิต ก่อนวางแผนให้ญาติแจ้งตาย มีใบมรณะเป็นหลักฐานยืนยัน พนักงานอัยการเห็นแย้งสืบพยานแวดล้อมพบจัดฉากหนีคำพิพากษาศาลฎีกา ไม่ได้ตายตามที่นายประกันกล่าวอ้าง อยู่ระหว่างติดตามใกล้รวบแล้ว
กองปราบพลิกแฟ้มคดีตามล่าแม่ว่าที่เจ้าบ่าวสั่งยิงว่าที่ลูกใภ้แล้วหนีศาล เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ต.ค.มีรายงานว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. นำกำลังสืบสวนติดตามตัวนางจุรี จันทร์งาม อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 427 หมู่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่า น.ส.ริ้วแพร โชติการ เภสัชกร รพ.ควนเนียง ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แล้วหนีคำพิพากษาศาลฎีกาด้วยการปลอมเอกสารใบมรณะบัตรทำทีเป็นเสียชีวิต กระทั่งพนักงานอัยการสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ยังมีชีวิตอยู่
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 13 ธ.ค.50 มีมือปืนบุกยิง น.ส.ริ้วแพร โชติการ เสียชีวิตที่คลินิกเวชกรรมของ นพ.รังสรรค์ รัตนพันธ์ ใน อ.ควนเนียง จ.สงขลา พร้อมนายอดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจัดยาที่ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์อย่างโหดเหี้ยม ตามแนวทางการสืบสวนพบว่า ผู้ตายกำลังจะลั่นระฆังวิวาห์กับนายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี พนักงานธนาคารหนุ่มในวันที่ 29 ธ.ค.50 ที่โรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางการกีดกันของนางจุรี จันทร์งาม มารดาฝ่ายชาย ถึงขนาดประกาศผ่านญาติว่า หากไม่ยกเลิกงานแต่งก็ให้จัดงานศพแทน
ต่อมา พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล รอง ผกก.กลุ่มงาน สืบสวน ภ.จ.สงขลา ในขณะนั้น จับกุมนายนรินทร์ จันทร์ฉาย อายุ 36 ปี จับได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ พื้นที่ หมู่ 7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และนายจำนงค์ คงสุวรรณ อายุ 40 ปี ที่บ้านเช่าเลขที่ 255 หมู่ 4 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง ทีมสังหารเภสัชกรสาว ก่อนขยายผลจับนางจุรี จันทร์งาม มารดาว่าที่เจ้าบ่าวข้อหาจ้างวานฆ่า
ผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องตามข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่ในชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องนายจำนงค์ คงสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 2 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง เช่นเดียวกับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ทว่านางจุรี วางหลักทรัพย์ 5 ล้านบาทขอประกันตัว มีเพียงนายนรินทร์ มือปืนถูกขังอยู่ในเรือนจำ กระทั่ง วันที่ 27 ก.พ.57 น.ส.รัศมี จันทร์งาม นายประกันยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลาว่า นางจุรี จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 24 ก.พ.57 ที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และได้เผาศพที่วัดมณีสพ ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 28 ก.พ.57 พร้อมยื่นใบมรณบัตรเป็นหลักฐานการตาย ขอให้ศาลคืนเงินประกัน
ศาลฎีกาจังหวัดสงขลามีคำสั่งให้ไต่สวนการตาย น.ส.รัศมี จันทร์งาม เป็นพยานเบิกความว่าตนกับพี่สาว และผู้ตายกลับจากการร่วมชุมนุม กปปส.ที่กรุงเทพมหานครแล้วแวะที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ปรากฏว่านางจุรี เป็นลมเสียชีวิต เมื่อเห็นว่าเสียชีวิตแล้วเลยไม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล รุ่งขึ้นฝากศพไว้กับเพื่อนก่อนไปพบผู้ใหญ่บ้านแจ้งการตาย ขอให้ออกหนังสือรับรองนำเป็นหลักฐานแจ้งอำเภอ
พนักงานอัยการจังหวัดสงขลาในฐานะผู้คัดค้านนำพยานเข้าสืบ 6 ปาก คือ เจ้าหน้าที่รับแจ้งการตาย ปลัดอำเภอ สัปเหร่อวัดมณีสพ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาส รวมถึง ร.ต.ท.สิทธิพร ขันธ์พระแสง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ยืนยันว่าไม่มีการจัดงานศพและเผาศพนางจุรีแต่อย่างใด และไม่มีพยานคนใดเห็นศพนางจุรี ส่วนสาเหตุที่ออกใบมรณะบัตร ทางอำเภออ้างเหตุผลว่า เพราะมีใบรับรองการตายจากผู้ใหญ่บ้านที่เป็นพนักงานตามระเบียบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องของ น.ส.รัศมี จันทร์งาม นายประกัน และพยานหลักฐานของพนักงานอัยการจังหวัดสงขลาผู้คัดค้านแล้วมีความเห็นว่า นางจุรี จันทร์งาม จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้ถึงแก่ความตายตามที่นายประกันกล่าวอ้าง และเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีพฤติกรรมหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาฎีกา ศาลฎีกาจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังว่า จำเลยที่ 2 ผิดตามฟ้อง แต่นายวิกรม จันทร์งาม บุตรชายให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวนเป็นเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นมารดา จึงลงโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 1 ศาลพิพากษายืนประหารชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังของ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6บก.ป.อยู่ระหว่างติดตามหาตัว นางจุรี จันทร์งาม ในวัย 73 ปี แม่ว่าที่เจ้าบ่าว ที่บงการสั่งตายว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่ามีฐานะยากจนไม่คู่ควรกับลูกชายไปตามแหล่งกบดานหลายแห่งในพื้นที่ภาคใต้ คาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้
thairath
Post A Comment:
0 comments: