นายภูมิรัตน์ กล่าวต่อว่า ที่ตนได้คุยกับน้อง ก็ไม่เคยด่าหรือตำหนิน้องเลยนะ เขาโทรมาคุยวันละ 1 ครั้ง เพราะเขานับถือตนมา เรียตนว่าแม่ ตนก็เป็นห่วง เพราะจริง ๆ แล้วน้องนิสัยดี ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง คนอื่น ๆ อาจจะต่อว่าพอลลี่ แต่ในวงการนางงามส่วนใหญ่ให้กำลังใจพอลลี่มาก ๆ ส่วนพอลลี่ก็ขอโทษตลอด ตนก็บอกว่าไม่ต้องขอโทษ เก็บเอาคำขอโทษไว้รักษาจิตใจตัวเองดีกว่า
สำหรับเรื่องที่เม้าท์กันว่า พอลลี่ ตกอับ นั้น นายภูมิรัตน์ กล่าวว่า หลังจากประกวดตนเห็นว่าน้องพอลลี่มีศักยภาพเลยส่งต่อไปประกวดมิสอินเตอร์ฯ ที่ญี่ปุ่น หลังจากได้ตำแหน่งกลับมาน้องก็มีงานมาเรื่อย ๆ มีงานเดินแฟชั่น ไม่ได้ตกอับจนต้องไปพึ่งพาอะไรคลายเครียด ฐานะที่บ้านน้องก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
ส่วนทางกองประกวดที่ญี่ปุ่น เขาก็ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งตนได้ชี้แจงรายละเอียดและเหตุการณ์ทั้งหมดตามความเป็นจริงทุกอย่าง ทางกองประกวดก็ได้แสดงความห่วงใย แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องภาพของพอลลี่ ที่ถูกถ่ายในวันถูกควบคุมตัว ดูลักษณะหน้าท้องป่องนูนขึ้นมาคล้ายคนตั้งท้อง นายภูมิรัตน์ กล่าวว่า กระแสวิจารณ์ว่าพอลลี่ท้อง เจ้าตัวทราบแล้ว และรู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่ถูกมองว่าอย่างนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ท้อง ไม่มีเสี่ยเลี้ยง ที่ภาพออกมาเป็นแบบนั้นน่าจะเป็นที่มุมกล้องและสวมเสื้อตัวโคร่งใหญ่มากกว่า เพราะปกติพอลลี่ก็เป็นคนรูปร่างใหญ่อยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่าเสี่ยใหญ่ใช้อิทธิพลไม่ให้เป็นคดีก็ไม่จริง ถ้ามีเสี่ยช่วยจริง ๆ ก็คงไม่เป็นข่าวดังขนาดนี้
อย่างไรก็ดี นายภูมิรัตน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้พอลลี่เข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเป็นที่จดจำของพอลลี่ต่อไป แต่อย่างน้อยก็มีเรื่องดี ๆ นะ เพราะไม่คิดว่าพอลลี่และเวทีประกวดมิสอินเตอร์ฯ จะรักและเป็นห่วงพอลลี่มาขนาดนี้
kapook
Post A Comment:
0 comments: