ความคืบคดีฆ่าเผาศพสาวทิ้งบ่อขยะ ญาติจำแหวนที่ศพได้ สงสัยฝีมือสามี

ความคืบคดีฆ่าเผาศพสาวทิ้งบ่อขยะ ญาติจำแหวนที่ศพได้ สงสัยฝีมือสามี
Share it:
ความคืบคดีฆ่าเผาศพสาวทิ้งบ่อขยะ ญาติจำแหวนที่ศพได้ สงสัยฝีมือสามี
ความคืบคดีฆ่าเผาศพสาวทิ้งบ่อขยะจากเมื่อ (27 ก.พ.) เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสามพร้าวว่า พบศพคนถูกเผาเสียชีวิต ในละเมาะเส้นทางบ้านสามพร้าว ไปบ้านดอนภู่ ห่างจากบ่อขยะเทศบาลนครอุดรธานี ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.อุดรธานี และมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพ เป็นหญิง ไม่ทราบชื่อนามสกุล อายุประมาณ 14-18 ปี สูงประมาณ 155-160 ซม. สภาพศพนอนหงายบริเวณด้านหน้า ตั้งแต่หัวถึงช่วงเข่าถูกไฟเผาผิวหนังไหม้เกรียมดำ มีเศษเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูลายจุด กางเกงลายขาสั้นติดอยู่ ที่บริเวณนิ้วนางด้านซ้ายสวมแหวนแฟชั่นรูปหัวใจ ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังพบโทรศัพท์มือถือ ถูกไฟไหม้ และเงินเหรียญ ไม่พบเอกสารประจำตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบหาร่องรอยแฝงบางอย่าง เพื่อจะทราบสาเหตุของศพถูกเผา และเชื้อเพลิง

และเมื่อ (28 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านพักหมู่ 1 บ้านหนองตุ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจได้พบหญิงสาววัยรุ่น ถูกฆ่ารัดคอแล้วนำศพมาเผาอำพราง ทิ้งอยู่ใกล้กับบ่อเผาขยะองเทศบาลนครอุดรธานี แล้วญาติออกมายืนยันว่าแหวนทองรูปหัวใจ และเสื้อผ้า เป็นของน้องสาวของตนเอง

นายมงคลชัย อายุ 35 ปี ให้การว่า น้องสาวของตนชื่อ น.ส.สุชาดา อายุ 22 ปี หายออกจากบ้าน ไปในคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่สามารถติดต่อได้ ญาติไม่ทราบว่าไปไหน เพราะปกติแล้วน้องสาวไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยบอกใคร อีกทั้งน้องสาวของตนมีครอบครัวแล้ว มีลูกด้วยกันกับสามี 2 คน ซึ่งน้องสาวและน้องเขย เป็นคนเงียบไม่ค่อยพูดและชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน

หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจไปศพหญิงสาวถูกฆ่ารัดคอแล้วนำศพมาเผาอำพราง ทิ้งอยู่ใกล้กับบ่อเผาขยะ ตนและญาติ ก็มาพบตำรวจแล้วพาดูศพ ซึ่งยืนยันได้ว่า แหวนทองรูปหัวใจที่อยู่กับศพเป็นของน้องสาว และเศษเสื้อผ้าที่ติดกับศพ ก็ใช่เป็นเสื้อผ้าของน้องสาว โดยน้องสาวของตน ทำงานขายอาหารอยู่ที่โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม ช่วงเย็นก็มาขายรองเท้าที่ตลาด ส่วนน้องเขยชื่อ นายปรีชา  อายุ 40 ปี มีอาชีพขับสามล้อเครื่อง และรับจ้างทำงานก่อสร้างด้วย

หลังจากน้องสาวของตนหายไปในคืนนี้วันที 25 ก.พ. เช้าวันต่อมา (26 ก.พ.) น้องเขยกลับมาที่บ้านเอาลูกทั้งสองคนไปด้วย โดยให้หลานไปส่งที่ บขส.แห่งที่1 ซึ่งก็ไม่บอกว่าจะพาลูกไปไหน ต่อมาเมื่อวานนี้ 27 ก.พ. น้องเขยได้ขับรถสามล้อเครื่องกลับมาที่บ้าน มาเอากล่องพลาสติกใส่เสื้อผ้าและเสื้อผ้าทั้งของน้องเขยและที่นอนไปด้วย ซึ่งก็ไม่บอกว่าจะเอาไปไหนหรือบอกว่าจะไปอยู่ไหน

โดยสัปดาห์ที่แล้วน้องสาวของตน ได้เดินทางไปกรุงเทพ หลังจากนั้นเพื่อนชายของน้องสาว ได้โพสต์รูปน้องสาวในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าน้องเขย อาจจะเห็นรูปน้องสาวของตนถ่ายรูปกับเพื่อนชาย ทำให้หึงหวงและโกรธแค้น ซึ่งน้องเขยก็ได้ออกจากบ้านพร้อมลูกทั้งสองคนไม่สามารถติดต่อได้เลยในตอนนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานต่างๆ ภายในบ้านที่อาจจะเชื่อมโยงไปถึงในการฆ่าผู้ตาย อาทิเช่น ปลอกหมอนซึ่งมีลายลักษณะคล้ายกับเศษผ้าที่ติดกับขาของศพ นอกจากนี้แล้วก็ยังพบท่อนไม้ที่อยู่ข้างบ้าน มีลักษณะรอยคล้ายคราบเลือดติดอยู่ และผ้าอ้อมเด็กมีรอยคราบเลือดติดอยู่ด้วย จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า จะทำการตรวจดีเอ็นเอของศพและญาติว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อความถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะศพที่ใบหน้าและร่างกายบางส่วนโดนเผาไหม้ส่วนแนวทางการสืบสวนจับกุมคนร้าย ในตอนนี้เราได้เร่งติดตามบุคคลหนึ่งที่ต้องสงสัยที่เชื่อว่าอาจทำให้หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิต มาทำการสอบปากคำข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว
sanook
Share it:

อาชญากรรม

Post A Comment:

0 comments: