ตั้งค่าหัวโจรทมิฬ ใช้ก้อนหินทุบหัวลูกสาวอดีต รมช.ศึกษาธิการ สลบเหมือด-หลังกดเอทีเอ็ม

บุตรสาว‘สฤต สันติเมทนีดล’ สลบเหมือด-หลังกดเอทีเอ็ม ตํารวจแจกภาพวงจรปิดไล่ล่า
ตำรวจ สน.บางรัก โพสต์เฟซบุ๊กตามล่า-ตั้งค่าหัวโจรทมิฬใช้ก้อนหินทุบหัวสาวนักวิเคราะห์การเงิน แบงก์ซูมิโตโม ลูกสาวคนโต “สฤต สันติเมทนีดล” อดีต รมช.ศึกษาธิการ สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้ทรัพย์สินหลายรายการ รวมทั้งกระเป๋าแบรนด์แนม เผยคนร้ายเหิมเกริมก่อเหตุบนพื้นที่ธุรกิจสำคัญกลางเมืองหลวงใกล้ตึกชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็น เป็นที่หวาดระแวงของบรรดาสาวออฟฟิศย่านนั้น

ตั้งค่าหัวโจรกรุงโหดใช้หินทุบหัวชิงทรัพย์ลูกสาวอดีต รมช.ศึกษาฯ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.บางรัก โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นภาพใบหน้าของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 13 ส.ค. หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล อายุ 30 ปี นักวิเคราะห์การเงิน ธนาคารซูมิโตโม บุตรสาวคนโตของนายสฤต สันติเมทนีดล อดีต รมช.ศึกษาธิการ สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย โดยใช้ก้อนหินที่เตรียมไว้ ทุบหัวจนเจ้าทุกข์สลบเหมือด ก่อนชิงทรัพย์สินหลบหนีไปหลายรายการ เหตุเกิดบนพื้นที่ธุรกิจสำคัญกลางเมืองหลวงใกล้ตึกชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 พื้นที่ สน.บางรัก ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็นของวันที่ 27 ก.ค.

คดีนี้เปิดเผยขึ้นหลัง น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พัฒนชัย โรจนวิภาค พงส.สน.บางรัก ว่า ถูกคนร้ายเป็นชายใช้ก้อนหินทุบศีรษะชิงทรัพย์ได้ทรัพย์สินประกอบด้วย กระเป๋าสะพายแบบสตรี ยี่ห้อโคช (Coach) ภายในมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 เอส สีทอง 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อเคส สเปซ สีทอง 1 ใบ เงินสด 4,000 บาท และบัตรเอทีเอ็ม เอกสารสำคัญจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นผู้เสียหายให้การว่าก่อนเกิดเหตุเดินทางมาทำธุระที่ตึกชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. เมื่อเสร็จธุระจึงเดินไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณทางเข้า-ออกของอาคาร จากนั้นเดินไปซื้อยาที่ร้านขายยาจุฬาเภสัช ริมถนนพระราม 4 ระหว่างเดินทางกลับโรงแรมคราวน์ พลาซ่า ที่เจ้าตัวพักอยู่ ตรงบริเวณทางเชื่อมระหว่างโรงแรมกับตึกชาญอิสสระ มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 1 คน เดินปรี่เข้ามาใช้ก้อนหินทุบศีรษะอย่างแรงจนสลบเหมือด รู้สึกตัวอีกทีที่ รพ.บีเอ็นเอช ย่านสาทร หลังมีพลเมืองดีนำส่ง เบื้องต้นแพทย์ตรวจพบบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้าและศีรษะด้านหลังบวมปูด มีรอยปริแตก

ด้าน พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย กระทั่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบคนร้ายชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวลายทางฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน รองเท้าแตะสีแดง เดินเข้าไปในตึกชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 ด้านซอยธนิยะ เมื่อเวลา 15.44 น. เดินวนเวียนคล้ายหาเหยื่อนาน 15 นาที จึงเดินออกจากตึกไปที่โรงแรมคราวน์ พลาซ่า แล้วข้ามถนนพระราม 4 เข้าไปที่ลานจอดรถของ รพ.จุฬาลงกรณ์ จากนั้นเวลา 16.08 น. คนร้ายเดินย้อนไปจุดเกิดเหตุ พบผู้เสียหายเดินอยู่เป็นจังหวะปลอดคน จึงใช้ก้อนหินทุบศีรษะชิงทรัพย์ ก่อนคนร้ายวิ่งหนีไปเรียกรถแท็กซี่ ทะเบียน ทย 1363 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน บริเวณหน้า รพ.จุฬาลงกรณ์ ใกล้ประตูทางเข้าตึกฉุกเฉินหลบหนี

จากการตรวจสอบพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวมีนายเฉลิม จีนเมือง อายุประมาณ 45 ปี เป็นโชเฟอร์ เมื่อตามตัวโชเฟอร์มาสอบสวน ทราบว่าหลังก่อเหตุ คนร้ายเป็นชายไทย อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว สูงประมาณ 170-175 ซม. เรียกรถที่หน้า รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อไปลงย่านประตูน้ำ จากนั้นคนร้ายขอลงที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ด้านถนนราชดำริ เนื่องจากรถติด ก่อนจะเดินหายไปกับฝูงชน อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเบาะแสเพิ่ม เบื้องต้นศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว ตามหมายจับเลขที่ 546/2558 ลงวันที่ 13 ส.ค.58 ในข้อหา “ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส”

“สำหรับคดีนี้เวลาผ่านไปนานกว่า 2 เดือน ตำรวจเร่งสืบสวนหาเบาะแสแต่ยังไร้วี่แวว จึงขอประชาสัมพันธ์ผู้ใดทราบเบาะแสคนร้ายรายนี้ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2266-7000 ตลอด 24 ชม. หากเบาะแสนำไปสู่การจับกุมจะมีรางวัลเป็นเงินสด 5,000 บาท สามารถเข้าไปดูภาพใบหน้าคนร้ายผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ Robo Cops Shinnawatra” พ.ต.อ.นคร กล่าว
thairath