นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I?m No.5 ให้หัวข้อ "มะงุมมะงาหรา หามือระเบิด" ต่อกรณีคนร้ายลอบวางระเบิด บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา
โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ผมเคยคุยกับ โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าว BBC ประจำประเทศไทย เมื่อครั้งพบกันที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ แกอยู่เมืองไทยมานาน รู้นิสัยใจคอของคนไทยเป็นอย่างดี
เห็นข่าวแกไปพบเศษวัตถุระเบิดที่ศาลพระพรหม แล้วเดินไปมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตำรวจดันไม่รับ อ้างว่าปิดทำการแล้ว สร้างความน่าอับอายถึงนิสัยการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการไทย ที่ยังทำงานเช้าชามเย็นชาม มะงุมมะงาหรา จนป่านนี้ยังหาใครไม่เจอ จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ขยันเสนอความเห็น
แทนที่จะปิดสถานที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐานโดยละเอียดให้ครบถ้วน ใครเจอหลักฐานเพิ่มเติมหรือทราบเบาะแสต้องรีบมารับหรือเรียกพบเพื่อหาความเชื่อมโยง แต่กลับรีบไปทำบิ๊กคลีนนิ่ง สร้างภาพเดินจับมือนักท่องเที่ยวเรียกความเชื่อมั่น (ไม่รู้ไปเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน?) หลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
แรกๆ ก็ให้ข่าวว่าเป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ส่วน ผบ.ตร.ก็บอกว่ามีคนไทยให้ความร่วมมือ ต่อมาก็รณรงค์กับประโยคเล็กๆ น้อยๆ ท้ายสุดก็ใช้นิสัยไทยดั้งเดิมจัดบวงสรวงเรียกขวัญและกำลังใจ
ทั้งที่ความจริงสวนทาง หุ้นตกระเนระนาด ทัวร์ยกเลิก ต่างประเทศออกคำเตือนนักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศไทย ศูนย์การค้าเงียบเหงา เลิกงานคนรีบกลับบ้าน สามทุ่มเงียบสงบทั้งกรุงเทพฯ
ที่ประหลาดไปกว่านั้นคือสื่อบางสำนัก ดันปล่อยให้นักข่าวในสังกัดไปแต่งตัวเลียนแบบคนร้าย ใส่เสื้อเหลือง สะพายเป้เหมือนมือระเบิดไปทำข่าว ณ ที่เกิดเหตุ จนชาวบ้านเขาด่ากันขรมถึงจะเพิ่งรู้ตัว อย่างนี้ไม่รู้จะไปเปิดมหาวิทยาลัยสอนนักข่าวได้ยังไง?
เลิกไร้สาระ หยุดดัดจริตกันเสียที
คนสมัยนี้ไม่รู้จักคำว่า "มะงุมมะงาหรา" หมายถึง เดินโดยไม่รู้ทิศรู้ทาง เพราะป่านนี้เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ มีวัตถุประสงค์อะไร?
khaosod

Post A Comment:
0 comments: